สืบเนื่องจากโครงการเผยแพร่ความรู้สู่ผู้ร่วมงาน
ของ กศ.วพบ. ได้จัดกิจกรรมครั้งที่ 1 ในประเด็นจริยธรรมการวิจัย โดยมีการนำสาระจากการเข้าร่วมประชุม
เรื่อง การวิจัยเชิงคุณภาพกับประเด็นจริยธรรมซึ่งผู้รยาย คือ ศ.ดร.เบญจา ยอดดำเนิน-แอตติกจ์ ณ คณะพยาบาลศาสตร์ ม.มหิดล เมื่อวันที่
๔ พ.ค. ๕๕ เวลา๐๙๐๐-๑๒๐๐
สรุปเนื้อหาสาระ โดย พ.ท.หญิง สุขภินุช สังฆสุวรรณ ดังนี้
1.หลักการจริยธรรมการวิจัยในคน ได้แก่ หลักการเคารพในบุคคล(Respect for person) หลักผลประโยชน์
( Beneficence) หลักความยุติธรรม (
Justice ) และ หลักการเคารพในชุมชน (Respect for
communities)
1.1
หลักการเคารพในบุคคล
- ผู้วิจัยชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการวิจัยแก่กลุ่มประชากรอย่างละเอียดชัดเจน
-ผู้วิจัยให้กลุ่มประชากรเป็นผู้ตัดสินใจเข้าร่วม/ไม่เข้าร่วมโครงการโดยสมัครใจ
1.2 หลักผลประโยชน์
-ออกแบบวิจัยเหมาะสม สอดคล้องกับโจทย์วิจัย
- (do no harm, ผลวิจัยเกิดประโยชน์ต่อสังคม)
- (do no harm, ผลวิจัยเกิดประโยชน์ต่อสังคม)
-
ครอบคลุมศักยภาพผู้วิจัย (
ในการดำเนินวิจัยและปกป้องสิทธิผู้เข้าร่วมวิจัย)
1.3
หลักความยุติธรรม
-มีกระบวนการเลือกผู้เข้าร่วมโครงการอย่างถูกต้องและยุติธรรม(กระจายความเสี่ยง
/ ประโยชน์ที่ได้รับอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ลำเอียงต่อกลุ่มใด)
-IRB
-กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์ม เพื่อพิจารณา ๓ ประเด็นที่กล่าวมา คือ ทั้งด้านจริยธรรม
และ Research design
1.4 หลักการเคารพในชุมชน
-การปรึกษา ขอความเห็น ทำความเข้าใจบริบทของสังคม วัฒนธรรม
2.ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการวิจัยเชิงสังคมศาสตร์
-ความเสี่ยงอันอาจเกิดจากความไม่สะดวก ( เวลา-สถานที่ ไม่เหมาะสม แบบสอบถามยาวเกินไป
หรือเก็บข้อมูลในช่วงที่ผู้ให้ข้อมูลไม่สะดวก)
( ควรบอกใน Information sheet ว่าแบบสอบถามยาวแค่ไหน ใช้เวลานานเพียงใด )
-ความเสี่ยงทางด้านอารมณ์/สภาพจิตใจ กลัวข้อมูลตนเองรั่วไหล แม้ว่าจะได้รับมั่นจากผู้วิจัยแล้วก็ตาม
-ความเสี่ยงทางสังคม จากข้อมูลรั่วไหล ถูกสังคมรังเกียจ/กีดกันจากสังคม ( ต้อง train ผู้เก็บข้อมูล/ถอดเทป
ว่าต้องรักษาความลับ )
-ความเสี่ยงทางกาย เช่น การศึกษาความรุนแรงในครอบครัว
-ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น ถูกออกจากงานหากมีผู้รู้ว่าติดเชื้อ
-ความเสี่ยงต่อกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีการกระทำบางอย่างผิดกฎหมาย
-ความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว/การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
-ความเสี่ยงจากกระบวนการวิจัย
ควรระมัดระวังไม่ให้มีผลกระทบต่อแนวคิด/ความเชื่อ ของบุคคล/ชุมชนนั้น
3. การปกป้องความเป็นส่วนตัว/การรักษาความลับ
-ข้อมูลนิรนาม ( anonymity)
ผู้วิจัยก็ไม่รู้ว่าผู้ให้ข้อมูลคือใคร
-การรักษาความลับ ( confidentiality) ผู้วิจัยรู้แต่เก็บเป็นความลับ(
ในการทำ focus group ต้องบอกอย่างเคร่งครัดว่าข้อมูลที่พูดกัน
จะอยู่เฉพาะในห้องนี้ )
4.ปัญหาในการเซ็นหนังสือแสดงเจตนายินยอมเข้าร่วมวิจัย
-กลุ่มคนที่ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้
-กลัวการนำลายเซ็นไปใช้ประโยชน์อื่น
-อายุ
น้อยกว่า 18 ปี ต้องให้ผู้ปกครอง/ผู้ดูแล เป็นผู้อนุญาต
-กลุ่มด้อยโอกาส
เช่น มีความบกพร่องทางสมอง ปกป้องตนเองไม่ได้
5. การเขียนรายงานและบทความ
-ไม่ระบุสถานที่ และ ผู้ให้ข้อมูล
-วิเคราะห์ข้อมูลในภาพรวม
-กลุ่มตัวอย่าง/กรณีศึกษา ให้ใช้นามสมมุติแทน
-การยกข้อความ ( quotation)
ระบุเพียงลักษณะของผู้ให้ข้อมูลเท่านั้น
-การใช้แผนที่ประกอบ เพื่อให้เห็นสภาพภูมิศาสตร์/กายภาพ
ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย ไม่ใช่บอกว่าศึกษาจากที่ใด
แนะนำหนังสือ
เศรษฐศาสตร์ซูชิ :
การวิเคราะห์ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ
สัมฤทธิ์พิศวง ( Outliers) : advanced data analysis
อับราฮัม กับแวมไพร์ : หนังสือที่มีการ quotation ที่ดี